ขงานประจำปี ปิดทอง นมัสการ ขอพร หลวงพ่อหวล ขนุติสาโร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 23 มีนาคม 2568 วัดชาวเหนือ ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
ภายในงานกิจกรรมสำคัญก็คือ ชมขบวนแห่หลวงพ่อฯ ซึ่งเป็นคาดว่าเป็นขบวนแห่ที่ใช้เวลานานที่สุดในโลก โดยวันที่ 15 มีนาคม เส้นทางตลาดราชบุรี - วัดชาวเหนือ และวันที่ 16 เส้นทางตลาดดำเนินสะดวก - วัดชาวเหนือ ทั้งสองวันเวลาเริ่มเคลื่อน 8.00 น.
หลวงพ่อหวล ขนฺติสาโร อดีตประธานคณะสงฆ์วัดชาวเหนือ (อุดรราษฎร์สัทธาราม) เป็นพระเถราจารย์ ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และกิจวัตร-ปฏิบัติเป็นผู้มีความสงบทั้งภายนอกและภายใน มีการปฏิบัติอย่างสมถะเรียบง่าย เป็นที่รักเคารพ และศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ ยิ่งด้วยธุดงค์วัตรรุกขมูล ศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระเถระผู้ทรงคุณธรรมที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่น่าเคารพบูชายิ่งหลายรูป และได้ศึกษาวิชาอาคมรวมทั้งการศึกษาสมถะเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ถวายเป็นพุทธบูชา อันเป็นหัวใจสำคัญของพุทธศาสนา
หลวงพ่อหวล ขนฺติสาโร นามเดิมว่า หวล นามสกุล ทองปาน เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2469 แรม 2 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล ที่ตำบลบ้านไร่ ในสมัยวัยเด็กนั้น หลวงพ่อหวล นั้นตัวเล็กกว่าเพื่อน ๆ ซุกซนแบบเด็ก ๆ เป็นเด็กซื่อสัตว์สุจริต พูดน้อย แต่มีความขยันหมั่นเพียรในการงาน และเป็นเด็กที่ชอบในการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ในทางโลกศึกษาจบชั้น ป.4 (ในขณะนั้น) และจากนั้นได้ออกมาช่วยครอบครัว ซึ่งมีอาชีพทำนา เป็นผู้ที่ประกอบ สัมมาอาชีพในทางสุจริต และตั้งตนอยู่ในศัลในธรรม จนมีความสุขความเจริญเรื่อยมา
ต่อมาเมื่อ นายหวล ทองปาน อายุได้ 24 ปี หลังจากเกณฑ์ทหารแล้ว ขอลาจากครอบครัวเพื่ออุปสมบท เนื่องจากมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเพื่อตอบแทนบุญคุณของบิดา มารดา ได้อุปสมบทที่วัดชาวเหนือ เมื่อ พ.ศ. 2493 เมืออุปสมบทแล้วได้จำพรรษา อยู่ที่วัดชาวเหนือ 2 พรรษา สอบได้ นักธรรมโท พอถึงพรรษาที่ 3 ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอรุณรัตนคีรีราม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในขณะที่จำพรรษา ที่วัดอรุณรัตนคีรีราม ได้ร่วมสร้างหอฉันและเสนาสนะต่าง ๆ ต่อมาในพรรษาที่ 4 หลวงพ่อก็เริ่มบำเพ็ญสมณะธรรม อยู่ที่ ถ้ำเขาพริก ตำบลห้วยไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันกับ วัดอรุณรัตน์ศีรีราม โดยท่านใช้เวลาเกือบทั้งคืนทั้งวัน ในการเจริญภาวนา และนั่งสมาธิปฏิบัติจิต จนวางรากฐานของจิต จนพอในขณะจิตเกิดความสงบเยือกเย็นพอที่จะปฏิบัติกัมมัฏฐาน ก้าวขึ้นสู่การบำเพ็ญสมณะธรรมขั้นสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
เนื่องจากความที่ท่านเป็นผู้ชอบแสวงหาและเป็นผู้ใฝ่ในความรู้จึงเกิดความคิดที่จะออกแสวงหาพระอาจารย์ ผู้ที่จะประสิทธิ์ประสาทความรู้ต่อไปอีก ในพรรษาที่ 5 จึงได้ออกเดินทางธุดงค์ ไปตามสถานที่ต่าง ๆ จึงเดินทางไปหาหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา จังหวัดเพชรบุรี ได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอเรียนธรรมปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน และวิชาอาคมต่าง ๆ และหลวงพ่อแก้ว มีจิตเมตตา สั่งสอนวิชาอาคมต่าง ๆ และยังได้แนะนำให้ฝากตัวเป็นศิษย์กับ หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่บุดดา ได้ปฏิบัติเจริญสมณะธรรม อยู่ที่วัดบุญทวี ถ้ำแกลบ จ.เพชรบุรี และได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบุญทวีฯ หลังจากการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน กับหลวงปู่บุดดา แล้วได้ออกเดินทางธุดงค์ ไปตามสถานที่ต่างๆ และได้เข้าไปนมัสการ ขอฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อสงฆ์ วัดแก้วฟ้าศาลาลอย จังหวัดชุมพร ในขณะที่หลวงพ่อสงฆ์ เดินธุดงค์มาปฏิบัติธรรมที่เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่อสงฆ์นั้น เป็นพระเกจิชื่อดังของภาคใต้รูปหนึ่ง ซึ่งมีวิชาอาคมสูง จากนั้นหลวงพ่อหวลก็ได้ออกธุดงค์ไปสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย หรือ พม่า ลาว จนถึง พ.ศ.2504 จึงได้เดินทางกลับมาที่วัดชาวเหนือบ้านเกิดอีกครั้ง พร้อมกับได้ทำการก่อสร้างปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุ และพัฒนาวัดเรื่อยมา ตลอดเวลาที่หลวงพ่อท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดชาวเหนือนั้นได้มีโอกาสเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อสาย เกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร และได้นำวิชาความรู้ต่างๆ ที่สามารถนำมาช่วยเหลือ พุทธศาสนิกชนทุกคนทุกท่านตลอดมา หลวงพ่อหวล ขนฺติสาโร ตอนอายุ 85 ปี แม้ว่าหลวงพ่ออายุจะมากแล้วแต่ภารกิจของ หลวงพ่อนั้นปฏิบัติได้ด้วยดีเสมอมา ท่านสร้างความเลื่อมใสศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไปที่ได้พบเห็น เป็นผู้พร้อมด้วยจริยาวัตร อันงดงาม ผู้ที่มาเคารพสักการะขอพรจากหลวงพ่อก็ประสบกับความสำเร็จเรื่อยมา จตุปัจจัยไทยธรรมที่สาธุชนได้มีจิตศรัทธาบริจาคมานั้น ท่านไม่เคยสะสม มีผู้บริจาคมาเท่าไร ท่านก็ได้นำไปบริจาคสร้าง ถาวรวัตถุ สร้างความเจริญให้แก่วัดชาวเหนือ ด้านสาธารณูปการ ด้านสาธารณะสงเคราะห์ โดยเฉพาะด้านศึกษาสงเคราะห์ และเผยแผ่พระธรรมวินัยได้ครบถ้วน สมกับเป็นพระสุปฏิปันโน และและเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างแท้จริง จนกระทั่งถึงวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2555 หลวงพ่อหวลฯ ได้ละสังขาร อย่างสงบ สิริอายุได้ 85 ปี 11 เดือน 9 วัน เเม้ท่านจะมรณะภาพไปแล้วเเต่คุณงามความดีของท่านยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนบ้านชาวเหนือ เเละพุทธศาสนิกชนที่ได้สัมผัสกับท่าน ท่านเป็นพระเเท้ที่ก้มลงกราบได้อย่างสุดหัวใจ
ป้ายโฆษณา |