คืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเส้นทางของรถยนต์ทั้ง 2 คัน พบว่า มุ่งหน้าไปยังจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ที่จ.ตาก จึงได้สกัดจับ สามารถจับได้ทั้ง 2 คัน โดยจะนำผู้โดยสารไปสอบปากคำที่ สภ.สวนผึ้ง
ทางญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นน้องชายหนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สภ.สวนผึ้ง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีผู้รอดชีวิต 1 คน ส่วนสาเหตุนั้นตนเองไม่ทราบ เพราะพี่ชายไม่เคยเล่าให้ฟัง
ผู้รอดชีวิตให้ข้อมูลว่า ได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวเมียนมาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ว่าจ้างให้ไปส่งที่ จ.ราชบุรี โดยว่าจ้างรถ 2 คัน เนื่องจากอ้างว่ามีสิ่งของที่ต้องบรรทุกไปด้วย ทำให้ผู้ตายกับตนเอง นำรถปิกอัพออกมาคนละคัน ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 13 พ.ย. แวะรับเพื่อนของผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ตลาดมหาชัย โดยที่ไม่มีของบรรทุกไป
แต่ออกรถมาแล้วจึงได้ยอมขับรถมาส่งที่ จ.ราชบุรี เพราะผู้ต้องหาโอนเงินมัดจำมาแล้ว ส่วนหนึ่ง เมื่อมาถึงจุดหมายก็ให้เพิ่มอีก
โดยรถของผู้เสียชีวิต นั้นนั่งมาทั้งหมด 3 คน มี ผู้เสียชีวิต และผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ส่วนรถของตนเอง ตนเองเป็นคนขับและมีผู้ต้องหาอีก 2 คน นั่งหน้าและในแคป
มาถึง ที่สวนผึ้ง รถของผู้เสียชีวิต นำหน้าทิ้งห่างรถของตนเอง ประมาณ 150 เมตร เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ต้องหา 2 คน ที่นั่งมาในรถก็บอกให้จอดรถ ซึ่งช่วงนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แต่ผู้ต้องหาที่นั่งมาด้วยกัน บอกว่าน่าจะเป็นการยิงสัตว์
ไม่นานผู้ต้องหารายหนึ่ง จี้ที่คอพร้อมกับบอกให้ถอดทรัพย์สินมีสร้อยคอทองคำที่ใส่มา โทรศัพท์มือถือ พร้อมกับบังคับให้บอกรหัสถอนเงินในแอปธนาคาร ซึ่งมีอยู่ประมาณหนึ่งแสนบาท
จากนั้นก็บังคับให้ถอดเสื้อ ก่อนจะให้ลงจากรถแล้วถีบตนเอง ตกลงไปในเหว ด้วยความตกใจกลัว จึงรีบวิ่งฝ่าความมืดไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ไม่มีใครช่วย เนื่องจากตนเอง พูดภาษาไทยไม่ได้ จึงหนีไปจนถึงวัดอยู่ใกล้ๆ และไปแอบอยู่ก่อนจะไปเจอเพื่อนชาวเมียนมาด้วยกันในช่วงเช้า พร้อมกับขอความช่วยเหลือขอโทรศัพท์โทรหาภรรยาให้มาช่วย
ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุนั้นไม่ทราบว่าเพื่อนที่เสียชีวิต 2 คนที่อยู่ในรถคันหน้านั้นถูกยิงตาย และไม่เห็นเหตุการณ์ด้วย แต่ตอนนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมตัวได้แล้วที่แม่สอด ซึ่งคาดว่าจะหนีกลับประเทศ |