หน้ารวมข่าว อุบัติเหตุ อาชญากรรม การเมือง เศรษฐกิจ บันเทิง การศึกษาและเยาวชน สิ่งแวดล้อม ประชาสัมพันธ์ ทั่วไป
 
จับแก๊งหลอกจำนำรถส่งข้ามแดนผ่านเฟซบุ๊ก เสียหายกว่า ร้อยล้านบาท

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ได้รับการเปิดเผยจากตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB ว่า ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหารจำนวน 7 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี สถานที่ตรวจค้น โกดังจอดรถ ในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ของกลางตรวจยึด 1.รถยนต์ จำนวน 23 คัน 2.รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน 3.รถแทรกเตอร์ จำนวน 1 คัน

ทั้ง 7 คนประกอบด้วย นายอมรเทพ หรือ อาร์ม (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ทำหน้าที่เป็นนายทุน ซื้อขายรถโจรกรรม และขายรถต่อให้นายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน , นายสนทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักบิน วิ่งรับ-ส่งรถหลุดจำนำให้กลุ่มนายทุน , นายธีรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ทำหน้าที่เป็นนักบิน วิ่งรับส่งรถใกลุ่มนายทุน

นายณรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ทำหน้าที่เป็นนักบิน วิ่งรับส่งรถให้กลุ่มนายทุน , นายประจักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ทำหน้าที่เปิดเพจหลอกรับจำนำรถ และหลอกลวงให้ผู้เสียหายนำรถมาจำนำ , นายเมธี (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ร่วมกับนายประจักษ์ฯ หลอกลวงให้ผู้เสียหายนำรถมาจำนำ , น.ส.วิยดา (สงวนนามสกุล)  อายุ 25 ปี ทำหน้าที่เปิดบัญชีรับเงินที่ได้จากการหลอกรับจำนำรถ โดยจับกุมได้ที่ บ้านพัก ในเขตอ.โพธาราม จ.ราชบุรี

พฤติการณ์ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.67 ผู้เสียหายได้ติดต่อกับเพจเฟซบุ๊ก ชื่อว่า "รับจำนำจอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ทุกชนิด" โดยทางเพจได้ล่อลวงให้ผู้เสียหายนำรถมาจำนำในราคา 80,000 บาท และได้นัดหมายส่งมอบรถยนต์ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยในวันส่งมอบรถ มี นายประจักษ์ฯ และ นายเมธีฯ ซึ่งเป็นแก๊งหลอกรับจำนำรถ ได้เดินทางมารับรถจากผู้เสียหาย และมอบเงินสดให้กับผู้เสียหาย จำนวน 71,000 บาท (หักค่าดอกเบี้ยและค่าจอดรถ รวม 9,000 บาท)

ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.67 ผู้เสียหายสามารถที่หาเงินมาได้และต้องการที่จะไถ่รถคืน จึงติดต่อ นายประจักษ์ฯ เพื่อขอรับรถคืน แต่นายประจักษ์ฯ ได้ออกอุบาย ว่าจะต้องโอนเงิน จำนวน 80,000 บาท มาให้ก่อนถึงจะยอมนำรถไปคืน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อก็ได้โอนเงินไปให้ นายประจักษ์ฯ ผ่านบัญชีธนาคาร ของ น.ส.วิยดาฯ ต่อมาภายหลังทราบว่า น.ส.วิยดาฯ ก็เป็นหนึ่งในลูกหนี้ที่เคยนำรถมาจำนำ แต่ผ่อนต่อไปไม่ไหว นายประจักษ์ฯ จึงยื่นข้อเสนอให้ไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อแลกกับการที่รถจะไม่ถูกนำไปปล่อยขายในตลาดมืด น.ส.วิยดาฯ จึงยอมทำตาม โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้บัญชีดังกล่าวในการรับโอนเงินจากการหลอกจำนำรถ ส่วน นายเอ ผู้เสียหาย เมื่อโอนเงินไปแล้วก็ไม่สามารถติดต่อกับ นายประจักษ์ฯ ได้อีกเลย จึงมั่นใจว่าตนเองถูกหลอก ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้อง

และในวันเดียวกันนั้น นายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังตำรวจทางหลวง ผ่านสายด่วน 1193 ให้ช่วยติดตามรถยนต์ที่ถูกแก๊งหลอกจำนำรถโจรกรรมไป ก่อนจะพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้หายไปบริเวณพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ทำการสืบสวนจนพบว่า แก๊งหลอกจำนำรถกลุ่มนี้มีการทำงานเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มนายทุนทั้งในประเทศและนอกประเทศ มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนเป็นขบวนการ พบว่าเมื่อผู้เสียหายส่งมอบรถให้นายประจักษ์ฯ รถก็จะถูกส่งต่อให้กับกลุ่มนักบิน ที่นำโดย นายสนทยาฯ พร้อมลูกน้องอีก 2 คน โดยมี นายอมรเทพฯ หรือ อาร์ม เป็นนายทุนที่จะคอยซื้อขายรถที่ได้มาจากการหลอกรับจำนำก่อนจะเสนอขายให้กับนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อกลุ่มนักบินรับรถมา ก็จะนำรถมาเก็บไว้ที่โกดังของ นายอมรเทพฯ ในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และเมื่อตกลงราคากับนายทุนในประเทศเพื่อนบ้านได้ก็จะนัดหมายส่งรถให้กลุ่มนายทุนประเทศเพื่อนบ้านมารับรถนำออกชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ

จากการข้อมูลการสืบสวนทำให้ทราบว่า พฤติกรรมของแก๊งอาร์ม พระแท่น ได้ทำการหลอกรับจำนำรถจากผู้เสียหายในลักษณะดังกล่าวข้างต้นมาโดยตลอด เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ตรวจพบการซื้อขายรถให้กับกลุ่มนายทุนทั้งในและนอกประเทศกว่า 100 คัน มูลค่าความเสียหาย กว่า 100 ล้านบาท

อ่านให้ฟัง

ราชบุรีเจ็ดหมื่น ส่งข้อมูล - ข่าวสาร - ประชาสัมพันธ์ ได้ที่ rb70000rb@gmail.com